สาว ๆ หลายคนเวลาที่มีหนุ่ม ๆ หลายคนนั้นเข้ามาหาก็มักจะโมเมคิดเข้าข้างตัวเองไปซะก่อนเลยว่าหนุ่มคนนั้นเขามีใจให้กับคุณแต่ว่าช้าก่อนนะอย่าพึ่งด่วนสรุปไปซะก่อนเพราะว่าบางทีไอ้สิ่งดี ๆ ที่เขาทำให้นั้นเนี่ยมันอาจจะเป็นนิสัยที่มันปกติทั่วไปของเขาอยู่แล้วถ้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นคนคิดไปเองเราลองมาดูกันว่าการกระทำแบบไหนที่ผู้ชายนิสัยดีเขาชอบทำแต่นั้นก็ไม่ได้แปลว่าเขาชอบคุณเพื่อที่จะได้นำไปพิจารณาได้อย่างถูกต้องนั่นเองเพราะชีวิตจริงมันไม่เหมือนกับใน AVSUBTHAI นะที่จะแสดงออกชัดเจนเลยว่าถูกใจคนนี้นะเห็นจาก AVSUBTHAI ที่ใครเคยดูใน AVSUBTHAI นั้นเขาก็จะแสดงออกไปเลยว่าเขาสนใจคนไหนและใน AVSUBTHAI นั้นก็จะให้ความสำคัญกับบุคคลนั้นอยางเดียวจะไม่มีการไปยุ่งกับคนอื่นหรือทำพฤติกรรมแบบนี้กับคนอื่นถ้าชีวิตจริงมันง่ายเหมือนกับใน AVSUBTHAI ก็คงจะดีใช่มั้ยล่ะ ข้อที่หนึ่งตอบแชทคุณตลอด คุณหนุ่ม ๆ ผู้แสนดีทั้งหลายมักจะไม่ชอบที่จะต้องทำร้ายจิตใจใครเวลาที่มีใครทักแชตมาก็ต้องตอบเพราะคิดว่าไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไรเพราะยังไงเขาก็เล่นโซเชียลเป็นประจำอยู่แล้วแต่พอสาว ๆ ได้เห็นกว่าเขานั้นตอบแชตบ่อยก็ดันใช้ข้อนี้คิดเข้าข้างตัวเองไปเลยว่าเขามีใจให้กับคุณแต่จริง ๆ แล้วนั้นเขาไม่ได้สนใจคุณด้วยซ้ำเขาแค่เพียงเป็นคนที่อัธยาศัยสีแต่ถ้าเขาเป็นฝ่ายที่ทักมาเองบ่อย ๆ อันนั้นก็ค่อยว่ากันอีกทีนะ ข้อที่สองให้กำลังใจคุณเสมอในเวลาที่คุณเศร้าหรือรู้สึกไม่ดีเขาก็มักจะเข้ามาถามไถ่อย่าเป็นห่วงเป็นใยและก็จะคอยปลอบคุณว่าไม่เป็นไรนะสู้ ๆ คุณก็อย่าพึ่งเก็บไปคิดเองเป็นอันขาดเขาก็อาจจะเป็นแค่คนคนนึงที่เป็นห่วงเป็นใยตามประสาเพื่อนที่รู้จักกันแค่นั้นเองแต่ถ้าเขามีใจให้คุณจริง ๆ นั้นเขาก็จะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคุณแก้ไขปัญหาของคุณอย่างสุดกำลังไม่ใช่การที่มาพูดให้กำลังใจหรือสนใจเรื่องราวแค่ผิวเผิน ข้อที่สามชอบมาเล่าเรื่องให้ฟัง เวลาที่มีเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับตัวเขาแล้วเขาก็มาเล่าให้คุณฟังตลอดคุณก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าคุณนั้นคิดคนที่พิเศษสำหรับเขาแต่บางทีเขาอาจจะต้องการอยากจะแชร์เรื่องราวให้คุณได้ฟังเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงเลยดีไม่ดีเขาอาจจะเล่าเรื่องแบบนี้ให้กับทุกคนฟังเลยก็ได้ที่เขาเลือกที่จะเล่าให้คุณฟังนั้นเขาอาจจะเห็นว่าคุณเป็นเพื่อที่ดีเพื่อนที่คอยรับฟังปัญหาของเขาได้นั่นเอง ข้อที่สี่เขาเข้ามาเทคแคร์คุณ บางทีความเป็นสุภาพบุรุษของเขาก็ทำให้คุณคิดไปไกลอยู่ฝ่ายเดียวแต่จริง ๆ แล้วมันเป็นสัญชาติญาณที่ฝ่ายชายคิดว่าตนเองต้องเป็นคนที่ปกป้องฝ่ายหญิงนั่นเอง